วันพฤหัสบดีที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

เรียงความเรื่อง "ความฝันของผม" ที่โชริเขียนไว้ตอนชั้นประถม


ความฝันของผม

                                                                                              ซาโต้  โชริ

ความฝันของผมคือการได้เข้าไปเรียนรู้งานในบริษัท HONDA
 และออกมาเปิดบริษัทรถยนต์ของตัวเองให้เป็นอันดับหนึ่งของโลกให้ได้ครับ
ผมชื่นชอบที่ได้จับเครื่องมือและลงมือทำ
พอได้อ่านหนังสือชีวประวัติของคุณฮอนดะ โซอิจิโร่ ที่ผมพบเจอที่บ้าน
ในนั้นเขียนเรื่องเกี่ยวกับเครื่องมือเอาไว้ด้วย
ทำให้ผมมีความสนใจพวกเครื่องมืออัติโนมัติทั้งหลายตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

เหตุผลที่อยากมีบริษัทเป็นของตัวเองก็เพราะว่า 
จะประดิษฐ์เครื่องกำเนิดไฟฟ้าที่ใช้ในที่มืด
จะให้เครื่องปั่นไฟนั่นราคาถูกลงน้ำหนักเบาและใส่ไว้ในรถยนต์
ถ้าสามารถขายได้ดีเหมือนรถยนต์ธรรมดาทั่วไปล่ะก็คิดว่าจะสามารถหยุดปัญหาโลกร้อนได้
และอีกอย่างก็คืออยากจะสร้างรถยนต์ที่เปลี่ยนรูปร่างเป็นหุ่นยนต์ที่ไม่เหมือนใครออกมาครั

วิชาคณิตศาสตร์ แม้ว่าจะเป็นสิ่งที่จำเป็นมากในการสร้างเครื่องมือก็ตาม
แต่ผมไม่ถนัดก็เลยลำบากมากครับ
แต่ว่า เพื่อความฝันแล้ว ก็อยากจะตั้งใจเรียนให้มากๆ
อยากจะเข้าไปทำงานในHONDAให้ได้
มีความคิดมากมายว่าจะสามารถสร้างเครื่องมือต่างๆออกมาได้
ในทุกๆวันก็จะมีไอเดียใหม่ๆ ที่คิดว่าอยากจะเป็นประโยชน์ต่ออนาคตครับ
ต่อจากนี้ ก็อยากจะเข้ามหาวิทยาลัยเฉพาะทาง
และเรียนรู้พื้นฐานการสร้างรถยนต์และหุ่นยนต์
แล้วก็อยากจะเรียนเทคนิคงานฝีมือเอาไว้ด้วยครับ

จนถึงตอนนี้ผมได้แต่เขียนเกี่ยวกับเรื่องเรียนอยู่เสมอ
ผมต้องเป็นคนใจดีที่เห็นความสำคัญของผู้อื่น 
แต่เข้มงวดกับเรื่องงานเหมือนคุณฮอนดะ โซอิจิโร่ให้ได้
ถ้าไม่เรียนรู้ผู้คน บริษัทเองก็ไม่สามารถเติบโตขึ้นได้เช่นกัน
ผมอยากเป็นคนที่อ่อนโยนใจดีครับ
เพื่อที่จะเป็นแบบนั้น จะเป็นคนที่ใจดีกับคนอื่นอยู่เสมอ
หรือไม่ก็บริจาคเงินบ้าง อยากเป็นคนที่มีจิตใจกว้างขวางครับ

---------------------------------------------------------------------------------


*ไม่ค่อยมั่นใจเรื่องชื่ออุปกรณ์ต่างๆที่น้องเรียกนะคะ ว่าคืออะไรกันแน่
เครื่องปั่นไฟ เครื่องกำเนิดไฟฟ้า เราคิดว่าน่าจะเป็นไดนาโม
แต่เราไม่ค่อยรู้เรื่องพวกเครื่องมือพวกนี้เลย ขอโทษนะคะถ้าแปลพลาด

** ตอนอ่านเรียงความนี้ครั้งแรก กลั้นน้ำตาไม่ไหวเลยค่ะ
โชริเป็นเด็กดีมากๆ เด็กประถมที่มีความมุ่งมั่นตั้งใจขนาดนี้ ไม่ได้มีอยู่ทั่วไป
ตอนเราอยู่ชั้นประถม เราก็มีความฝัน แต่มันก็เป็นแค่ความฝันเพ้อๆเหมือนเด็กธรรมดาคนอื่นๆ
อยากเป็นนั่น อยากเป็นนี่ แต่ว่าไม่รู้ว่าถ้าไปถึงฝันนั้นต้องทำอะไรบ้าง
แต่โชริ รู้ว่าตัวเองต้องการอะไร รู้ว่าจะต้องทำยังไงต่อที่จะสานฝันให้เป็นจริงได้
น้องไม่ได้วาดฝันไปเกินตัวเลย เราว่า ถ้าน้องไม่ได้มาทางนี้ ไม่ได้เป็นไอดอล
น้องต้องเข้ามหาวิทยาลัยเฉพาะทางและได้ทำงานที่ HONDA ได้แน่ๆ



Translation  :  Pimpisa  [yukari_hask]
เอาออกไปได้แต่ให้เครดิตด้วยนะคะ

[Trans] POPOLO 2013.05 Let's travel! มาท่องเที่ยวกันเถอะ!


POPOLO 2013.05 Let's travel! มาท่องเที่ยวกันเถอะ! 



Q1 เวลาไปท่องเที่ยว สิ่งของที่ต้องพกไปเสมอคือ?
สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยก็คือหมวกแก๊ป เครื่องเพลงพกพาและกล้องดิจิตอล
ถ้าไปต่างประเทศก็พาสพอร์ต (หัวเราะ) 
แล้วก็พวกยากันแมลงกัดกับยาแก้โรคกระเพาะ
 พวกชุดปฐมพยาบาลก็เตรียมไว้อย่างรอบคอบครับ

Q2 สถานที่ติดอยู่ในความทรงจำมากที่สุดคือ?
ศาลเจ้าอาโอชิมะ จังหวัดมิยาซากิครับ!
วันปีใหม่ของปีนี้ได้ไปไหว้พระครั้งแรกของปีกับครอบครัวที่นั่น

Q3 กระเป๋าแบบไหนที่ใช้ไปท่องเที่ยวอยู่เสมอ?
ถ้าเป็นต่างประเทศจะเป็นกระเป๋าลากสีชา
มันมีช่องใหญ่ใส่ของได้สะดวกมากเลย
ถ้าเป็นในประเทศกระเป๋าหนังสีชาที่ใช้อยู่ปกติก็OKแล้วล่ะ

Q4 สิ่งของที่พกอยู่ทุกวันแต่ไม่ได้ใช้เลยก็คือ?
เครื่องเล่นดีวีดีพกพา คิดว่าถ้ามีเวลาว่างจะนั่งดูซักหน่อย
แต่ความจริงแล้วไม่มีเวลาว่างเลยครับ (หัวเราะ)

Q5 วางแพลนการเที่ยวไว้ก่อนหรือเปล่า?
ผมชอบการวางแพลนก่อนไปเที่ยวมากๆล่ะ
ได้คิดจำลองสถานสถานการณ์อย่างร้านหรือสถานที่ที่อยากไป
แต่ว่าจะนำไปใช้จริงๆรึเปล่าเนี่ยอีกเรื่องนึงนะ
เพราะการได้เดินตามใจตัวเองต่างหากที่แพลนที่แท้จริงครับ

Q6 เวลาถ่ายรูปเป็นประเภทถ่ายรูปตัวเอง?หรือถ่ายรูปคนอื่น?
จะใช้กล้องดิจิตอลประสิทธิภาพสูงที่พี่สาวให้มาเป็นของขวัญ
ถ่ายพวกวิวทิวทัศน์ไว้เป็นที่ระลึกครับ
รูปที่ถ่ายท้องฟ้าจากในน้ำที่ฮาวายผมเองก็ชอบนะ

Q7 ในแหล่งที่ไปท่องเที่ยวได้สนิทกับคนในพื้นที่รึเปล่า?
ที่ต่างประเทศจะดูกระตือรือร้นมากกว่าในประเทศล่ะนะ (หัวเราะ)
แม้กระทั่งร้านค้าในนิวยอร์ค พนักงานในร้านก็ยังพูดภาษาญี่ปุ่นมาว่า
"เกงจังเลยนะ" แล้วได้พูดคุยกันด้วยล่ะ ได้สนทนากันแบบนั้นสนุกมากเลยล่ะ

Q8 บอกเรื่องอาหารที่นึกถึงตอนไปท่องเที่ยวหน่อยสิ!
ฟูลคอร์สอาหารย่างที่ฮาวาย 
มีทั้งผัก โอโคโนะมิยากิ อาหารทะเล
แล้วก็มีสเต็กชิ้นใหญ่ด้วยสุดยอดมากเลยครับ

Q9 วิวทิวทัศน์ที่ได้เห็นแล้วจะไม่มีวันลืมเลยก็คือ?
วิวตอนกลางคืนที่เห็นจากบนดาดฟ้าของตึกเอ็นไพร์สเตจ
มองได้รอบ360องศาเลย เห็นแสงสว่างจากตึกในเมืองอย่างนับไม่ถ้วน
มองดูเหมือนแสงดาวที่ทะเล สวยงามมากเลยครับ

Q10 เวลาเข้าห้องพัก สิ่งแรกที่จะทำก็คือ?
วิ่งไปที่เตียงและล้มตัวลงไป! (หัวเราะ) มันรู้สึกดีมากๆเลยล่ะครับ
เวลาไปพักกับพวกสมาชิกในวงก็จะเกิดสงครามแย่งเตียงกันด้วยแหละ (หัวเราะ)

Q11 ยึดติดกับความนุ่มและความสูงของหมอนเวลาไปเที่ยวรึป่าว?
ชอบหมอนที่ทั้งนุ่มและก็สูงเลยล่ะ
เวลาไปเที่ยวถ้าหมอนของที่ันั่นมีทั้งสองอย่าง ผมจะเลือกอันนั้น

Q12 บอกปัญหาที่เจอแบบ "แย่แล้วล่ะ" เวลาไปเที่ยวมาหน่อย!
ตอนที่ไปต่างประเทศ ดันลืมเอาที่ชาร์จกล้องมาด้วย มารู้ตัวก็ตอนไปถึงที่แล้วล่ะ!
เพราะอย่างนั้น รูปที่ไปฮาวายถึงได้มีน้อยมากเลยครับ

Q13 บอกความทรงจำที่เกี่ยวข้องกับของฝากมาหน่อย!
ที่นิวยอร์ค ผมซื้อพวงกุญแจมาฝากเพื่อนเยอะมาก
แต่ว่ายังไม่มีโอกาสที่จะเอาไปให้เลย
มันเลยตั้งอยู่ที่บ้านผมประมาณ100อันอยู่อย่างนั้นล่ะ (หัวเราะ)

Q14 สถานที่ที่คิดว่าอยากจะลองไปคราวหน้า?
หลงไหลไฝ่ฝันมาตั้งแต่เมื่อก่อนแล้วล่ะ
อยากลองไปเมืองแห่งสายน้ำอย่างเวนิชครับ!
เพราะว่ามีเส้นทางน้ำไหลอยู่กลางเมืองแบบนั้นสุดยอดไปเลยไม่ใช่เหรอ?
อยากไปเที่ยว แล้วก็ทานพิซซ่าด้วย (หัวเราะ)

Q15 ถ้าให้ไปเที่ยวกับเหล่าสมาชิกเท่านั้นใน1 อาทิตย์ล่ะ?
จะไปเมืองที่มีทั้งธรรมชาติอย่างภูเขาและทะเล
และก็มีแหล่งช้อปปิ้งอย่างฮาวายล่ะ
อย่างปล่องภูเขาไฟไดมอนด์เฮดก็ยังไม่เคยไปเลย
อยากลองไปผจญภัยกับทุกคนดูจังเลยน้า


Translation  :  Pimpisa  [yukari_hask]
เอาออกไปได้แต่ให้เครดิตด้วยนะคะ



วันพฤหัสบดีที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

[Trans] Wink Up 2013.04 แฮปปี้เดย์!


Wink Up 2013.04 แฮปปี้เดย์!



ช่วงเวลาไหนที่รู้สึกว่าตัวเองสีหน้าดูดีที่สุด!

ตอนที่ทานซูชิครับ! ผมมั่นใจเลยนะ
ตอนที่ทานของอร่อยๆในรายการเรียลสโคปฯน่ะ ต้องสื่อความรู้สึกว่าอร่อยจริงๆไปให้คนที่ดูได้เห็น
แล้วตอนที่ทานซูชิสต๊าฟบอกผมว่า "ตอนที่ทานดูท่าทางอร่อยจริงๆนะ" ล่ะครับ (หัวเราะ)
โดยเฉพาะ ตอนที่ทานซูชิหน้าเอ็นกาว่าที่มีอุนิราดข้างบนน่ะอร่อยสุดยอดเลย!
แล้วก็ยังถูกคิชิ(ยูตะ) บอกด้วยว่า "โชริน่ะเวลาทานแล้วดูท่าทางน่าอร่อยมากเลย" ล่ะครับ

รู้สึกอายรึป่าวถ้าต้องร้องไห้ให้เด็กผู้หญิงเห็น?

มันก็ต้องอายแน่อยู่แล้วนี่! 
"เหตุการณ์ร้องไห้ที่สำคัญ" ของตัวผมก็คือ 
ตอนที่ WINK UP นำเค้กวันเกิดออกมาให้ตอนที่ถ่ายนิตยสารครับ 
เป็นครั้งแรกที่ได้รับการเซอร์ไพรส์แบบนั้น ก็เลยส่งเสียงร้องไห้หนักเลยแหละ
ในตอนนั้น Sexy Zone เองก็เป็นช่วงที่เพิ่งเดบิวต์แรกๆ ทุกๆวันมีงานยุ่งมากมาย 
พวกเราได้ขึ้นมาสู่จุดๆนี้อย่างกระทันหัน มีทั้งความกดดันที่ได้รับ
และยิ่งไปกว่านั้นคือมันมีความรู้สึกที่เหมือนแบกรับอะไรไว้บนบ่าอยู่ด้วยล่ะ
แต่ผมก็ไม่ได้พูดว่ามันจะเป็นความรู้สึกที่ฝืนไปซะทั้งหมดนะครับ
มันเป็นโชควาสนาที่ดีมากๆที่ผมได้รับ เป็นทั้งความรู้สึกขอบคุณ
และก็มีเรื่องสนุกสนานเกิดขึ้นมากมายเลยล่ะ
มันเป็นทุกๆวันที่มีทั้งความกังวลและความยินดีแบบนั้นแหละครับ
แต่แล้วกลับมีเค้กวันเกิดมาปรากฏอยู่ที่ตรงนั้น
 ทั้งพวกสมาชิกในวงและสต๊าฟก็ต่างเข้ามาพูดว่า "ยินดีด้วยนะ!" พร้อมทั้งส่งยิ้มให้และก็จับมือผมด้วย 
พอผมคิดว่า "ยังมีคนที่คิดถึงผมอยู่ด้วยสินะ!" ขึ้นมาเท่านั้นล่ะน้ำตาก็ไหลพรากออกมาเลยครับ
สถานที่ถ่ายแบบของ Wink Up น่ะ ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็มีเสียงหัวเราะก้องอยู่เสมอ
 ที่นี่เป็นที่ๆที่ทำให้ผมรู้สึกสบายใจนะ

ในเมืองที่ไปทัวร์คอนเสิร์ตมีเหตุการณ์อะไรบ้างรึเปล่า?

ผมไปนาโกย่าเพราะเรื่องงานหลายต่อหลายครั้งแล้วล่ะ 
แต่ว่าไม่ได้รู้รายละเอียดอะไรลึกมากเท่าไหร่นะ 
อย่างปีกไก่ที่เป็นของขึ้นชื่อของที่นั่น ผมก็เคยได้ทานแค่แบบเย็นเท่านั้นเอง (หัวเราะ)
จริงสิ! ตอนไปเปิดคอนเสิร์ตรอบนาโกย่า
ให้ฮิราโนะโชที่มีบ้านเกิดอยู่ที่นาโกย่าส่งปีกไก่มาให้ดีกว่า! (หัวเราะ)

เรื่องราวในช่วงนี้

ผมได้เกมใหม่มาแหละ คนรอบข้างตอนนี้ทุกคนเอาแต่เล่นเกมเดียวกันนี้อยู่น่ะ
ดูท่าทางน่าสนุกมากเลย ผมเลยรู้สึกว่าอยากเล่นขึ้นมา
"เอา-ล่ะ ผมเองก็จะเล่นบ้างนะ!" ก็ตั้งใจไว้ว่าจะเล่นอย่างเต็มที่ล่ะครับ
แต่เหมือนว่าเกมนั่นจะเป็นที่นิยมมากก็เลยขายหมดไปแล้วล่ะ
เพราะว่ามันก็เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้นี่นะ ตอนนี้ผมก็เลยเล่นเกมนั่นแบบมินิเกมไปก่อนพลางๆล่ะ (หัวเราะ)
วันก่อนก็ไปเล่นนั่งเกมกับเพื่อนที่ร้านอาหาร เผลอเล่นไปตั้ง 2 ชั่วโมงแหน่ะ
ถึงจะเป็นแค่มินิเกมแต่ก็สนุกพอใช้ได้เลยนะ แต่ถึงยังไงผมก็อยากได้แบบฟูลเวอร์ชั่นเร็วๆอยู่ดีครับ!


Translation  :  Pimpisa  [yukari_hask]
เอาออกไปได้แต่ให้เครดิตด้วยนะคะ

วันพฤหัสบดีที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2556

[Trans] Potato 2013.04 สิ่งที่ผมกำหนดและตัดสินใจ


Potato 2013.04 สิ่งที่ผมกำหนดและตัดสินใจ 



พอรู้ตัวว่าสายแล้วก็จะวิ่งไปอย่างไม่คิดชีวิตเลย!

ที่บ้านผมไม่มีเรื่องที่กำหนดไว้อย่างเป็นพิเศษอะไรมากมายครับ 
แต่ว่าเรื่องอย่าง "เวลากินข้าวห้ามร้องเพลง" พวกเรื่องที่เป็นสามัญสำนึกที่ต้องทำนี่ก็ถูกพูดอยู่ล่ะนะ
ตอนเด็กๆไม่ว่าจะอยู่ที่บ้านหรือที่โรงเรียนจะถูกพูดอยู่บ่อยๆ
เลยกลายเป็นธรรมเนียมที่ว่าต้องล้างมือและบ้วนปากล่ะ
ไม่ว่าจะอยู่ที่บ้านหรืออยู่ข้างนอกผมก็จะทำมันเสมอครับ
ผมชอบตอนกดหัวปั๊มน้ำยาให้ออกมาเวลาล้างมือล่ะ
พอเห็นแบบนั้นปุ๊ป แทนที่จะรู้สึกอยากจะกำจัดเชื้อโรคน่ะ 
ผมเพียงแค่รู้สึกอยากจะกดหัวปั๊มนั้นมากกว่าอีกครับ (หัวเราะ)
แล้วก็ สิ่งตัวผมตัดสินใจแล้วว่าจะไม่ทำมันเด็ดขาดนั่นก็คือการมาสาย
เพราะฉะนั้นตั้งแต่อยู่ชั้นประถมมาจนถึงทุกวันนี้การมาสายเท่ากับศูนย์ล่ะ
ตอนที่ผมรู้ตัวว่าจะสายแล้ว ยังไงก็ตามก็จะวิ่ง!
การเดินจากบ้านไปโรงเรียนน่ะใช้เวลาประมาณ 20-30 นาที
แต่ว่าถ้าวิ่งอย่างไม่คิดชีวิตล่ะก็ ผมเคยไปถึงโรงเรียนได้ภายใน 7 นาทีล่ะนะ (หัวเราะ)
ส่วนการกำหนดเกี่ยวกับเรื่องความรักน่ะ..ถ้าให้ทำได้เพียงแค่เรื่องเดียวล่ะก็
สิ่งที่ลอยขึ้นมาในหัวเลยก็คือ "ตอนที่ไปเดทที่บ้านแฟนน่ะก็ต้องไปที่ห้องนอนของเธอ !"
ไม่รู้ว่าเพราะอะไรเหมือนกันนะแต่คำว่า "ห้องนอนของแฟน" เนี่ย ฟังดูดีเนอะ?


หลังเลิกงานสิ่งที่่ผมใส่ใจก็คือ การไปดูที่เวทีแล้วเก็บรายละเอียดความเห็นของตัวเองมาล่ะมั้ง
ไม่ใช่แค่ดูอย่างเดียว แต่ว่านำส่วนที่ทำดีแล้วมาคิดอย่างเป็นรูปธรรมครับ 
มันกลายเป็นการเรียนรู้อย่างนึง เพราะว่าความสนุกมันแพร่กระจายออกไปด้วยละเนอะ
ในกลุ่มเนี้ย สีของตัวผมนั้น ในตอนนี้ทั้งไม่ใช่เด็กแล้วก็ไม่ใช่ผู้ใหญ่ แต่อยู่ตรงกลางก็ว่าได้ล่ะมั้ง
ถ้าให้ยกตัวอย่างก็คือเป็น "ผลไม้" ที่ยังไม่สุกครับ
ผลไม้น่ะแม้ว่าจะยังไม่สุกก็ตามแต่มันก็มีเสน่ห์ ตอนที่สุกแล้วก็มีเสน่ห์อีกเช่นกันใช่มั๊ยครับ?
เพราะฉะนั้น ตัวผมก็เหมือนกัน อยากจะเติบโตขึ้นไปเป็นแบบนั้น 
และยิ่งไปกว่านั้น ผมคิดว่า ถ้าได้กลายเป็นคนที่อยู่เฉยๆก็สามารถเท่ได้ 
เป็นคนที่ "กลายเป็นรูปภาพ" ได้แบบนั้นคงดีนะครับ

ช่วงนี้ ผมไปซื้อของคนเดียวมาล่ะ
ได้ไปเดินเล่นเรื่อยเปื่อยและดูตามซอกตรอกเล็กๆของร้านสนุกดีครับ
ระหว่างทางก็แวะเข้าร้านขายแซนวิชล่ะ แต่ว่าผมไปร้านนั้นเป็นครั้งแรก
ก็เลยไม่รู้เลยว่าวิธีการสั่งของร้านนั้นเป็นยังไง
แต่ก็ต้องเลือกจากชนิดของขนมปังในร้านอยู่แล้ว
ผมก็เลยสั่งชื่อของอันที่อยู่ตรงหน้าไปทั้งๆที่ไม่รู้แบบนั้นแหละ (หัวเราะ)
ถึงจะลังเลไปหน่อย แต่มันก็อร่อยครับ!



Translation  :  Pimpisa  [yukari_hask]
เอาออกไปได้แต่ให้เครดิตด้วยนะคะ

วันอาทิตย์ที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2556

[Trans] RIBON 2013.04 สามวันสำคัญของผม


RIBON 2013.04 สามวันสำคัญของผม



วันที่ 29 เดือน กันยายน
วันเกิดของ Sexy Zone

ทั้งผู้คนมากมายในงานแถลงข่าวและแสงเฟรชกล้องถ่ายรูปในวันนั้นผมจะไม่ลืมไปชั่วชีวิต
ตอนที่ผมได้ยินชื่อวงครั้งแรกก็คิดว่า "เขียนตามแนวขวางสินะ"ล่ะครับ (หัวเราะ)

วันที่ 30 เดือน ตุลาคม
วันเกิดของผม

ปีที่แล้ว ผมได้รับปากกาหมึกซึมและก็จดหมายจากมาริอุสครับ
ปากกาหมึกซึมนั่นน่ะดูเหมือนว่าจะเป็นของชื่อดังในเยอรมันล่ะ
จดหมายที่ติดสติ๊กเกอร์น่ารักๆที่ได้รับมา ผมใส่ไว้ในกระเป๋านักเรียนอยู่ตลอดเลยนะ!

วันที่ 16 เดือน พฤศจิกายน
วันวางขายซิงเกิ้ลเดบิวต์วันแรก

มันก็เป็นวันพิเศษเหมือนกับวันก่อตั้งวงนั่นแหละนะ
ก็เพราะว่าเป็นซีดีแผ่นแรกของพวกผมนี่นา
สิ่งที่ทำให้นึกถึงตอนที่ก่อตั้งวงก็คือวันนี้นี่แหละ




จินตนาการ วันที่สำคัญกับคนรักคือวันไหนกัน?
วันเกิดแฟน!

ถึงจะพูดแบบนั้น แต่ก็ไม่ได้ทำอะไรพิเศษมากนักหรอกนะ!
ก็อยู่ที่บ้านด้วยกันอย่างปกติ อยากส่งของขวัญให้เธอโดยไม่แสดงออกจังเลยนะ


Translation  :  Pimpisa  [yukari_hask]
เอาออกไปได้แต่ให้เครดิตด้วยนะคะ


วันเสาร์ที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2556

[Trans] POPOLO 2013.04 เวดดิ้งแพลน♥ แผนการแต่งงานและเจ้าสาวของผม♥


POPOLO 2013.04 เวดดิ้งแพลน♥ 
แผนการแต่งงานและเจ้าสาวของผม♥



คำขอแต่งงาน
"กรุณาแต่งงานกับผมเถอะนะ!"

Q1 งานแต่งงานในอุดมคติ?

จะต่างประเทศหรือญี่ปุ่นก็ได้ทั้งคู่♥
อยากจัดพิธีแต่งงานในโบสถ์ต่างประเทศที่สามารถมองเห็นชายหาดสีครามครับ
จะชวนผู้คนมาเยอะๆให้กลายเป็นพิธีที่ครึกครื้นล่ะครับ
หลังเสร็จพิธีแล้ว งานฉลองก็ไปจัดที่ญี่ปุ่นล่ะจะเป็นยังไงน้า
อยากได้รับคำอวยพรที่เร่าร้อนจากทุกๆคนล่ะ (หัวเราะ)

Q2 เด็กผู้หญิงที่อยากให้มาเป็นเจ้าสาวในอุดมคติ?

อยากจะผูกพันกันด้วยหัวใจครับ
คุณภรรยาที่ถือรีโมตอยู่ในมือพลางพูดว่า "รีโมตอยู่ไหนเนี่ย?"
 พร้อมเดินหารีโมตไปด้วยนี่น่ารักดีนะครับ (หัวเราะ)
แม้ว่าไม่ต้องพูดอะไรกันแต่ก็เชื่อมโยงกันทางใจได้น่ะดีน้า
แม้ว่าอายุจะมากขึ้นแต่ก็ไม่เปลี่ยนไปจากตอนที่แต่งงานกันใหม่ๆ
ยังคงเลิฟๆและสนิทกันเหมือนเดิมคืออุดมคติของผมครับ♥

Q3 เพลงของจอห์นนี่ที่จะเปิดคลอในงานแต่งล่ะ?

จะร้องเพลงที่เปี่ยมไปด้วยความรักให้กับคุณภรรยา
จะให้เพื่อนๆร้องเพลง[Love is itsumo soba ni kimi ga ita kara]ของKinki Kids 
แล้วช่วงกลางเพลงผมเองก็จะขึ้นไปร้องด้วย!!

Q4 จะเชิญสมาชิกในวงมางานแต่งงานหรือเปล่า?

ถึงจะอายแต่ว่ามาเอาใจช่วยผมหน่อยนะ
การเชิญพวกเขามาเนี่ยผมอายนะ แต่ก็มีความรู้สึกที่อยากให้พวกเขามาเป็นกำลังใจให้ล่ะครับ
ผมเองก็อยากไปงานแต่งงานของสมาชิกในวงเหมือนกันล่ะ (หัวเราะ)

Q5 บอกลักษณะของเจ้าสาวที่เหมาะสมกับสมาชิกในวงหน่อยสิ?

เคนโตะ 
เป็นคนสวย ไม่ว่าอะไรก็ทำได้ และเป็นเด็กที่หนักแน่นมั่นคง
มีนิสัยที่สมบูรณ์แบบเพอร์เฟ็คไม่แพ้ใคร

ฟูมะ
อายุมากกว่า หนักแน่นมั่นคง และมีลักษณะแบบพี่สาว
คงเป็นเด็กรักษามารยาทได้อย่างดีเยี่ยมล่ะนะ

โซ
เป็นเด็กที่ให้ความสำคัญกับครอบครัวและมีหัวใจอบอุ่น
คิดว่าคงเป็นเด็กที่ความพยายามคล้ายโซล่ะ

มาริอุส
ฟูจิกายะคุง(หัวเราะ)?
ถ้าเป็นเด็กที่ขี้อ้อนกับมาริอุสได้ก็ดีนะ


Monthly Zone เรื่องราวในช่วงนี้

การตั้งชื่อย่อของฮาชิโมโตะคุง A.B.C-Z
ตอนที่อยู่ในช่วงจอนห์นี่เวิลด์
ชุดซาชิมิที่มี่อาหารชุดเทมปุระ (เทมปุระเทโชคุ) ฮัชชี่จะตั้งชื่อย่อว่า T&T ล่ะ (หัวเราะ)
ผมไม่ค่อยมีเวลาเลยไปทานด้วยไม่ได้ล่ะครับ


Translation  :  Pimpisa  [yukari_hask]
เอาออกไปได้แต่ให้เครดิตด้วยนะคะ



[Trans] Myojo 2013.04 ความทรงจำในวันจบการศึกษา


Myojo 2013.04 ความทรงจำในวันจบการศึกษา


คำประกาศการจบการศึกษา "การใส่เสื้อบางๆ" ของซาโต้โชริ!
เพราะว่าผมเป็นคนขี้ร้อนน่ะ ในฤดูหนาวใส่แค่เสื้อยืดตัวเดียวก็อยู่ได้นะ
แต่ว่า..คนที่มองอยู่คงคิดว่าผมคงจะหนาวล่ะมั้ง (หัวเราะ)

สิ่งที่ผมนึกถึงในวัน "จบการศึกษา" ก็คือทางเดินดอกไม้ในโรงยิมล่ะมั้ง
ได้เดิมข้ามทางตรงกลางระหว่างที่นั่งนักเรียนกับผู้ปกครองล่ะ
แต่ว่างานจบการศึกษาในตอนที่จบชั้นมัธยมต้นน่ะนะ
ผมกังวลไปหมดจนไม่รู้ว่าคนไหนเป็นผู้ปกครองของเพื่อนๆบ้าง
ก็เลยทักทายกับผู้ใหญ่ทุกคนที่ผมสบตาล่ะครับ (หัวเราะ)
เพราะว่าผมมีพี่น้อง4คน ก็ได้ไปอวยพรการจบการศึกษาด้วยกันมามากมายเลยครับ
ในทุกๆครั้งทุกคนก็จะเดินกลับบ้านพร้อมกับกินซาลาเปาขาวแดงด้วยกันเป็นที่ระลึก
และคุณแม่ก็แบ่งซาลาเปาสีขาวกับสีแดงอย่างละหกลูกเท่าๆกันเสมอล่ะ
แม้ในใจผมจะคิดว่า "เด็กๆไม่ทานซาลาเปาเยอะขนาดนั้นหรอกนะ"
แต่ผมก็ทานเพราะว่าเป็นการอวยพรครับ ทุกคนในครอบครัวก็ต่างทานซาลาเปากันไปทีละคำๆล่ะ

สมัยมัธยมต้นเนี่ยสนุกมากเลยน้าา
ทุกๆวันก็จะวางแผนกันว่า "มาหาอะไรๆสนุกๆทำกันเถอะ!" 
ในชั่วโมงเรียนก็จะแอบคุยแอบหัวเราะกันกับเพื่อนที่นั่งโต๊ะข้างหน้าบ้าง
ช่วงพักเที่ยงก็จะเปลี่ยนข้อความในวิชาประวัติศาสตร์ที่เขียนบนกระดานดำเป็นชื่อเพื่อนในห้องบ้าง
"กฏหมายควบคุมดูแลOOได้ถูกบัญญัติขึ้นมาแล้ว" แกล้งอะไรแบบนี้ล่ะ!
ตอนนี้ผมกลายเป็นนักเรียนชั้นมัธยมปลายแล้ว อะไรๆเข้าที่เข้าทางมากล่ะมั้ง
ถ้าจบการศึกษาไปแล้ว พ่อแม่บอกว่าให้ไปมหาวิทยาลัยล่ะ
พี่สาวและก็พวกพี่ชายทุกคนก็เรียนต่อมหาวิทยาลัยกันทั้งนั้น โชริก็ด้วยนะ..
พ่อแม่ก็คงคิดแบบนี้ล่ะน้า แต่ว่านี่เป็นชีวิตของผมเอง 
ภายหลังไม่ว่าจะอะไรผมตั้งใจว่าจะตัดสินใจได้ด้วยตัวเองล่ะ!


Translation  :  Pimpisa  [yukari_hask]
เอาออกไปได้แต่ให้เครดิตด้วยนะคะ

[Trans] Margaret 2013.06 Sweet Secret ความรักความลับหวานๆให้เพียงเธอ


Margaret 2013.06 ความรักความลับหวานๆให้เพียงเธอ



Q1 สเป็กของเด็กผู้หญิงที่ชอบ?

เป็นเด็กที่มีบรรยากาศรอบตัวดูสะอาดเรียบร้อย ใจดีและก็อบอุ่นครับ
ถ้าเป็นเด็กที่มองเห็นแล้วรู้สึกสนุกขึ้นมาได้ก็จะดีน้า
แล้วก็เวลาอยู่กับผมแล้วไม่ต้องรู้สึกฝืนเกร็งอะไรก็ดีล่ะ
แต่ว่าการที่พยายามทำท่าฝืนให้เห็นเนี่ยดูแล้วก็น่ารักดีนะ..

Q2 สถานการณ์การสารภาพรักในอุดมคติ

เอ..แบบธรรมดาก็ดีแล้วนะ
ไม่จุดอะไรอย่างพลุขึ้นมาหรอกครับ (หัวเราะ)
การสารภาพรักน่ะอยากจะเจอหน้ากันแล้วพูดตรงๆไปเลยล่ะ

Q3 สิ่งที่อยากทำให้คนรักคือ?

ซื้อนิตยสารมาการ์เร็ตให้อ่านทั้งปีครับ (หัวเราะ)
ก็ไปเดทกันธรรมดาๆ ไปซื้อของด้วยกันล่ะมั้ง
แม้จะเป็นตอนที่จะไปซื้อของเป็นเวลานานๆผมก็จะไปด้วยนะ
ในการเดทก็อยากจะให้เธอได้ข้อดีของผม ก็ผมเป็นผู้ชายนี่นะ
จะพยายามพาเธอไปร้านอาหารที่ปกติแล้วไม่ได้ไปบ้าง
อยากจะทำให้เธอสนุกสนานอย่างสุดความสามารถเลยครับ!

Translation  :  Pimpisa  [yukari_hask]
เอาออกไปได้แต่ให้เครดิตด้วยนะคะ

[Trans] Weekly The Television 2013 No.8 ถ้าหากได้รับคำพูดว่า....จะตอบไปว่า!??


Weekly The Television 2013 No.8 
ถ้าหากได้รับคำพูดว่า....จะตอบไปว่า!??



ถ้าได้รับคำพูดว่า "ชอบนะ" จะตอบไปว่า!??

ครับ! ขอบคุณครับ!

ที่งานจับมือช่วงเวลาที่ได้พูดกับแฟนๆทีละคนมันสั้นจริงๆนะ
แต่ว่าผมก็พยายามเต็มที่ในการสื่อความรู้สึกออกไปให้ได้
พูดว่า "ชอบนะ" มาให้ ผมก็จะตอบกลับไปด้วยโทนเสียงอบอุ่นไปแบบนั้นครับ


ถ้าได้รับคำพูดว่า "ตอน12นาฬิกามารับกลับไปด้วยนะ" จะตอบกลับไปว่า!??

ขอบคุณครับ!

อืมม เพราะว่าไม่รู้ว่าสถานที่คือที่ไหนก็พูดอะไรกลับไปไม่ได้ล่ะ (หัวเราะ)
นี่น่ะแน่นอนว่าต้องพูดว่า "ขอบคุณครับ" กลับไปล่ะมั้ง
ถ้าหากว่าตอนนั้นผมอายขึ้นมาก็อาจจะหลบตาคุณก็ได้นะ!?


ถ้าได้รับคำพูดว่า "แต่งงานกันเถอะ!" จะตอบกลับไปว่า!??

อ่าา..ขอบคุณครับ

แม้ว่าเคนโตะคุงที่อยู่ข้างๆจะใช้คำพูดที่สุดยอดตอบไปก็เถอะนะ (หัวเราะ)
แต่ผมคงตอบไปด้วยน้ำเสียงที่ค่อนข้างตกใจหน่อยล่ะ
ยิ่งกว่าคำพูดที่จะพูดตอบออกไป
ก่อนอื่นผมอยากจะขอบคุณในความรู้สึกที่ให้ผมมากกว่าครับ


ถ้าได้รับคำพูดว่า "เท่มากๆเลย!" จะตอบกลับไปว่า!??

ขอบคุณครับ!

นี่หน้าผมต้องเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้มแน่ๆเลยครับ!
ถ้าได้รับคำชมแบบนั้นน่ะคงทั้งดีใจ
และคิดว่าตัวเองคงยิ้มออกมาอย่างเป็นธรรมชาติได้อย่างสุดยอดเลยครับ
โทนเสียงที่ตอบไปก็ดูเหมือนทั้งตื่นเต้นและสูงขึ้นด้วยล่ะน้า


ถ้าได้รับคำพูดว่า "จุ๊บหน่อยสิ!" จะตอบกลับไปว่า!??

ขอบคุณครับ!

เพราะว่าอายน่ะครับ คิดว่าคงจะเขินด้วยล่ะ
แล้วก็คำว่า "ขอบคุณครับ" จนถึงตอนนี้เนี่ย 
ความจริงแล้วถึงจะตอบเหมือนกันแต่มีลักษณะพิเศษที่แตกต่างกันนะ
ถ้ามันสื่อผ่านหน้ากระดาษนี้ไปได้ล่ะก็ดีน้า


Translation  :  Pimpisa  [yukari_hask]
เอาออกไปได้แต่ให้เครดิตด้วยนะคะ

วันศุกร์ที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2556

[Trans] Weekly The Television 2013 No.8 มาเป็นเจ้าสาวของผมนะ


Weekly The Television  2013 No.8 มาเป็นเจ้าสาวของผมนะ


ความสัมพันธ์ในอุดมคติ
ก็คือการที่ไม่ต้องพูดอะไรก็สามารถเข้าใจกันได้เองล่ะ



ถ้าได้รับสิทธิพิเศษในฐานะเจ้าชายให้สามารถดูโชว์อะไรก็ได้ตลอดล่ะก็ดีน้า


สมมติว่าผมได้กลายเป็นเจ้าชายของประเทศๆหนึ่งขึ้นมาล่ะก็
ผมจะใส่่พลังทางด้านวัฒนธรรมลงไปในการแสดงของประเทศนั้นๆแล้วแพร่ขยายมันออกไปล่ะ
จะสร้างโรงละครด้วยเงินงบประมาณของประเทศ
แล้วก็จะสร้างเมืองที่เหมือนบรอดเวย์ให้รู้สึกมีชีวิตชีวาด้วยการแสดงนั้นล่ะครับ
และในโรงละครนั่นผมจะสร้างที่นั่งส่วนตัว
ไว้สำหรับผมในฐานะเจ้าชายที่จะมานั่งเมื่อไหร่ก็ได้ไว้ด้วยครับ (หัวเราะ)
ถ้ามีประเทศที่ว่านี้จริงๆล่ะก็สุดยอดไปเลยน้า


งานพิธีแต่งงานของผม ถ้าได้จัดที่ชายหาดหรือที่ต่างประเทศได้ก็ดีนะ
แต่ถ้ากำหนดการของเราสองคนไม่ตรงกันก็จัดในญี่ปุ่นก็ได้แหละ
แต่ก่อนอื่นจะต้องชักชวนเพื่อนๆมากันเยอะๆ
อยากจะให้พิธีอวยพรหลังแต่งงานดูครื้นเครงขึ้นมาครับ
พูดเรื่องนี้อาจจะดูใจเร็วไปหน่อย 
แต่ทรงผมของผมในวันแต่งงานน่ะมีอิมเมจว่ายาวกว่าตอนนี้และดัดหน่อยๆล่ะ
ในงานสังสรรค์ตอนแต่งงานก็อยากจะให้มีการตัดเค้กเหมือนที่อื่นทั่วๆไปครับ
แล้วก็เรื่องสร้างสีสันให้กับงานเนี่ยจะเรียกคิชิ(ยูตะ)มาทำหน้าที่แสดงอะไรตลกๆให้ดูล่ะ
แต่บางที ในวันจริงคิดว่าอาจจะกังวลมากเกินไปจนทำอะไรไม่ได้เลยก็ได้นะ (หัวเราะ)
แม้ว่าเท่าที่จำได้ผมยังไม่เคยไปงานแต่งงานเลยก็ตามแต่ว่าผมก็ต้องการจะแต่งงานนะครับ
แต่ว่าแต่งซักตอนอายุประมาณ30จะดีรึเปล่าน้า
ชีวิตแต่งงานในอุดมคติของผมก็คือการที่ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันอย่างเหนียวแน่น
และค่อยๆกลายเป็นความสัมพันธ์แบบที่ไม่ต้องพูดอะไรก็สามารถเข้าใจกันได้ล่ะครับ
คิดว่าแม้จะมีทะเลาะกันบ้างก็โอเค
ถ้าค่อยๆกลายเป็นสามีภรรยากันอย่างแท้จริงได้ล่ะก็ผมคิดว่าสุดยอดไปเลยนะครับ




คำขอแต่งงานของโชริ

"ผมรักคุณ อยู่ด้วยกันตลอดไปนะ"

แน่นอนว่าการพูดตรงๆน่ะดีที่สุดนะ
สถานการณ์ก็คือเริ่มแรกจะมีเพียงแสงเทียนเท่านั้นที่จุดสว่างขึ้นมากลางที่มืด
แล้วพอผมปรบมือให้สังญาณปั๊ป โคมระย้าอันใหญ่ก็จะติดไฟขึ้นมา
อยากจะขอแต่งงานไปพร้อมๆกับเซอร์ไพรส์ที่คล้ายๆกับการแสดงแบบนี้ล่ะครับ


Translation  :  Pimpisa  [yukari_hask]
เอาออกไปได้แต่ให้เครดิตด้วยนะคะ