วันอาทิตย์ที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2555

[Trans] Myojo 2012.01 The Secret Zone of SHORI

Myojo 2012.01 The Secret Zone of SHORI


"ถ้าจะทำแล้วก็ทำให้ถึงที่สุด"
ด้วยความรู้สึกอันแข็งแกร่งที่ไม่แพ้ชื่อของผม



[ชื่อที่มาจากความรู้สึกประทับใจจากการไปเป็นพยานในการคลอด]

คนที่ตั้งชื่อผมว่า "โชริ" ก็คือคุณพ่อล่ะครับ
ถึงผมจะมีพี่สาวและพี่ชายอีก 2 คน แต่การคลอดลูกคนที่ 4 นั้น
ดูเหมือนว่าจะเป็นประสบการณ์ครั้งแรกของคุณพ่อที่ได้เข้าไปในห้องคลอดด้วย
ในช่วงเวลาที่ผมเกิด คุณพ่อรู้สึกประทับใจมาก
แล้วคำว่า "โชริ"* ก็ผุดขึ้นมาในใจ จากนั้นก็ใช้คำนั้นตั้งชื่อผมทั้งอย่างนั้นเลยล่ะครับ
*โชริ = ชนะ ชัยชนะ

[ทั้งๆที่เป็นเด็กทารกที่ยิ้มแย้มอยู่เสมอแท้ๆ...]

คุณแม่บอกว่า ตอนผมเป็นเด็กทารก ผมมักจะยิ้มแย้มและแข็งแรงอยู่เสมอ
ถ้าจะพูดถึงการป่วยครั้งใหญ่ล่ะก็ เคยเป็นแค่โรคคางทูมเท่านั้นล่ะ
ถือว่าเป็นเด็กที่มีสุขภาพแข็งแรงดีเลิศยอดเยี่ยมเลยล่ะครับ!
ถ้าได้นั่งเบบี้คาร์ออกไปเดินเล่นล่ะก็จะยิ้มแย้มกับผู้คนที่ได้เจอเสมอเลย
พอได้รับคำชมว่า "เป็นเด็กที่น่ารักจังเลยนะ"  ก็จะยิ้มออกมาอีก..
แต่ว่าความทรงจำที่เก่าที่สุดสมัยผมยังเล็กที่ยังคงจำได้อยู่นั้น
คือตอนที่ไม่สามารถพูดทักทายกับอาจารย์ที่โรงเรียนอนุบาลได้ล่ะ
ได้แต่ทำท่าเขินๆตะกุกตะกัก ยิ่งไปกว่า ก็ยังขี้แยอีกด้วย!
เพราะเพียงแค่เห็นเพื่อนทำน้ำหกเท่านั้นก็ตกใจและร้องไห้ออกมาเลยครับ
ความรักครั้งแรกก็เกิดขึ้นตอนอยู่อนุบาลล่ะ แต่ว่าก็จบลงแค่เพียงได้แต่แอบมองอยู่ไกลๆเท่านั้น
แม้แต่ตอนประถม กว่าผมจะเผยตัวตนจริงๆให้เพื่อนรู้จักก็ใช้เวลาถึง 1 ปีครึ่ง
ผมมักจะถูกคนที่สนิทกันแล้วพูดว่า "ความรู้สึกตอนที่เจอกันครั้งแรกต่างกับตอนนี้เลยเนอะ"
กับ "ไม่คิดเลยว่าจะเป็นคนที่พูดเยอะขนาดนี้" ล่ะครับ (หัวเราะ)

[ไปเที่ยวฮอคไกโดกับพี่สาวสองคน]

เพราะว่าผมอายุห่างจากบรรดาพี่ๆมาก (ทุกคนบรรลุนิติภาวะแล้ว)
ก็เลยไม่ค่อยมีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกันครับ
โดยเฉพาะกับพี่สาวที่อายุห่างกัน 9 ปีแล้ว ให้ความรู้สึกเหมือนเป็นคุณแม่เลยล่ะ
คนที่ชวนผมไปเที่ยวเป็นคนแรกนั้นก็คือพี่สาวนั่นเองครับ
ในตอนนั้น ทั้งๆพี่สาวก็ยังอยู่แค่มัธยมปลายปี 3 แท้ๆ
แต่พอผมพูดว่าอยากไปฮอคไกโด พี่สาวก็ทำงานพิเศษสะสมเงินเพื่อพาผมไปล่ะ
ได้ออกไปเที่ยวในวันหยุดช่วงฤดูหนาว 2 คืน 3 วัน
แผนการเที่ยวต่างๆพี่สาวก็เป็นคนคิดให้ ได้ไปทั้งสวนสัตว์อะซาฮิยามะ
และอีกทั้งยังได้ทานซูชิที่ไม่ใช่ซูชิหมุนที่เมืองโอตารุเป็นคร้ังแรกในชีวิตอีกด้วย!
ยังจำได้ถึงความอร่อยของซูชิที่เสิร์ฟออกมาทีละจานทีละจานได้อยู่เลยครับ
อยากจะไปด้วยกันกับพี่สาวอีกจังเลยน้า




[ความฝันคือนักออกแบบรถยนต์!]

งานอดิเรกตั้งแต่เมื่อก่อนแล้วก็คือรถยนต์กับรถมอเตอร์ไซค์
นั่นน่ะ ได้รับอิทธิพลมาจากคุณพ่อล่ะครับ
มาชอบอย่างเต็มที่จริงๆจังก็ตอนประถม 3
เพราะได้อ่านชีวประวัติของฮอนดะ โซอิจิโร่ซัง (ผู้ก่อตั้งบริษัท HONDA)
ก็เลยคิดว่า "นี่ล่ะเป็นทางที่ตัวผมต้องเดินก้าวต่อไปล่ะ!"
หลังจากนั้นก็มุ่งมั่นที่จะเป็นนักออกแบบรถยนต์
ทั้งไปที่ร้านบ่อยๆ ทั้งอ่านตำราอย่างละเอียด หมกมุ่นอยู่กับมันเป็นพิเศษเลยครับ
ของขวัญวันเกิดที่ได้รับจากเพื่อนในตอนนั้นก็เหมือนกัน
ผมได้ปฏิทินรถยนต์ล่ะครับ (หัวเราะ)

[ชมรมกรีฑาที่แข็งแกร่งที่สุดในประวัติการณ์]

สมัยตอนอยู่ชั้นมัธยมต้นผมเข้าชมรมกรีฑาล่ะ!
ผมวิ่งประเภท 3000 เมตร และก็เคยได้ที่หนึ่งในการแข่งขันวิ่งผลัดระยะไกลด้วยล่ะครับ
ตอนอยู่ปี 2 ก็ได้กลายเป็นหัวหน้าชมรมด้วยแต่ว่าก็สนิทกับสมาชิกชมรมทุกคนเลย
พอทานอาหารกลางวันของโรงเรียนเสร็จแล้ว
ก็มารวมตัวกันที่แถวๆทางระบายน้ำของสนามโรงเรียน จากนั้นก็เล่นฟุตบอลกันล่ะ
ฤดูใบไม้ผลิปีนี้ ผมถอนตัวออกจากชมรมแล้วครับ
ผลการแข่งขันประจำเขตครั้งสุดท้ายก็ได้ที่ 4 มา
ถ้าจะได้รับรางวัลก็ต้องได้ไม่เกินที่ 3 ก็เลยเสียดายมากเลย
แต่เพราะว่าผมก็ทำสุดความสามารถแล้วก็เลยไม่รู้สึกเสียใจภายหลังครับ

[ความคิดที่จะต่อสู้ที่เก็บงำอยู่ภายในจิตใจ]

ตอนที่อยู่ชมรมกรีฑาก็เหมือนกันครับ
ผมมีความรู้สึกที่ว่า "ถ้าจะทำแล้วก็ทำให้ถึงที่สุด" อยู่เสมอ
ตอนที่ออดิชั่นเข้าจอห์นนี่ก็มีแต่คนที่ไม่รู้จักประมาณ 300 คนมารวมตัวกัน
คนที่มีนิสัยเข้ากับคนยากแบบผม แน่นอนว่าต้องประหม่าอยู่แล้ว
แต่ว่าในตอนนั้นก็คิดว่า "ต้องไม่แพ้ทุกคนที่อยู่ในนี้" น่ะครับ
ผมน่ะเกลียดความพ่ายแพ้ จริงๆแล้วก็อาจจะเป็นคนที่ชอบทำตัวเด่นก็เป็นได้นะ
ตอนเด็กๆเวลาพีชจะยกนิ้วก้อยขึ้น ก็เลยคิดค้น "โชริพีช" ขึ้นมา (มีรูปข้างล่างนะคะ)
เพราะว่าแม้แต่ตอนเด็กๆ ผมก็มีความคิดว่า "ถ้าเหมือนคนอื่นก็น่าเบื่อแย่สิ" ล่ะครับ

[หลังจากเดบิวต์แล้ว ตอนนี้ก็...]

เมื่อดูจากพวกรุ่นพี่แล้ว เลเวลของผมยังห่างจากพวกเขาอย่างเห็นได้ชัดเจนเลย
ผมก็คิดอยากจะไล่ตามไปให้ทันอย่างรวดเร็วอยู่เหมือนกันครับ
แต่ว่าตอนนี้ยิ่งกว่าสิ่งอื่นใด ความรู้สึกดีใจที่ได้อยู่รวมกัน 5 คนเนี่ยเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่มากครับ
ในฐานะที่เป็นผมแล้ว ก็มีหัวข้อการเต้นและจิตใจที่ต้องไปฝึกฝน
แล้วก็ผมอยากจะรับมุกของฟูมะคุงให้ได้ด้วยครับ!
เพราะเลเวลสูงเกินไป พอมาถึงกลางทางก็ไม่ค่อยเข้าใจทุกทีเลยครับ
ผมอยากจะให้คาแร็กเตอร์ของผมในกลุ่มแข็งแกร่งขึ้นจังเลยน้า



เด็กทารกตัวใหญ่ที่ยิ้มแย้มอยู่เสมอ!
ตอนที่เกิดมีน้ำหนักตัว 3006 กรัม ส่วนสูง 48.6 เซ็นติเมตรครับ!
ในบรรดาพี่น้อง 4 คน ผมเป็นทารกที่ตัวใหญ่เป็นอันดับ 2 ล่ะ



สมัยผมยาวได้เริ่มขึ้นแล้ว!?
คนที่บ้านไม่ได้คิดเอาไว้ว่าผมจะเกิดมาเป็นเด็กผู้ชาย
ก็เลยเลี้ยงดูผมมาแบบเด็กผู้หญิงอยู่พักนึงน่ะครับ



ยกนิ้วก้อยขึ้นมาด้วยคือพีชในแบบของโชริ
นี่คือตอนงานแข่งกีฬาที่โรงเรียนครับ
ในระหว่างการแข่งขันก็รู้สึกเบื่อขึ้นมา ก็เลยเล่นโคลนไปด้วยวิ่งไปด้วยครับ (หัวเราะ)



ไปสวนสนุกกับครอบครัวล่ะ!
สิ่งที่จำได้มากกว่าการไปสวนสนุกก็คือทรงผมล่ะครับ แน่นอนว่ามันยาวมากเนอะ!
พอโตขึ้นแล้วมาดูอีกทีมันน่าอายมากเลยน้าา


การเก็บเกี่ยวในวันหยุดช่วงฤดูร้อนที่สนุกสนานกว่าดอกไม้บาน
ตอนอยู่ชั้นประถมได้รับการบ้านฤดูร้อนให้ไปปลูกดอกผักบุ้งฝรั่งล่ะ
ชอบการที่ได้เก็บเมล็ดหลังจากดอกไม้บานแล้วมากเลย!


ชื่อผลงานก็คือ [งานทำไร่ของคุณปู่]
การแสดงผลงานฝีมือที่จัดแสดงขึ้นที่โรงเรียนประถมครับ
ผมค่อนข้างถนัดในเรื่องงานฝีมือที่ทำมาจากดินเหนียวล่ะ


Translation  :  Pimpisa  [yukari_hask]
เอาออกไปได้แต่ให้เครดิตด้วยนะคะ


2 ความคิดเห็น:

  1. คุณพ่อเข้าใจตั้งชื่อนะคะเนี่ย 55555+
    อ๊าก เข้าใจเลยว่าทำไมเป็นเด็กดีได้ขนาดนี้ เพราะถูกเลี้ยงมาอย่างอบอุ่นนี่เองงงง พี่สาวใจดีจังเลยยยย อุตส่าห์เก็บตังค์ทำงานพิเศษพาน้องไปเที่ยว T^T
    งี้ต้องหวงน้องเป็นพิเศษแน่ๆ ท่าทางเคนโตะคุงต้องฝ่าด่านพี่สาวก่อนทุกคนเลยล่ะ
    โชริพีซ น่ารักนะ แต่เดี๋ยวนี้เห็นแต่ V โพสล่ะค่ะ 5555+
    ชอบผมแบบนี้อ้ะ ตอนปลูกดอกผักบุ้งฝรั่ง สั้นๆกลมๆ น่าร๊ากกกกก

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. รักครอบครัวโชริ ฟังจากที่น้องเล่าๆมาแล้ว อบอุ่นมากๆเลย
      ขอบคุณที่เลี้ยงดูโชริมาให้เป็นเด็กดีขนาดนี้นะคะ T T

      ลบ